ในการลงทุนเรามักต้อง เทรดออฟระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงอยู่เสมอ ถ้าผมถามทุกคนว่าผลตอบแทนคืออะไร คำตอบที่ได้ น่าจะเหมือน(หรือต่างกันเล็กน้อย) แต่ถ้าถามว่าความเสี่ยงคืออะไรแหละ? คำตอบดูจะแตกต่างกัน แล้วเราจะวัดความเสี่ยงได้อย่างไร บทความนี้จะชวนทุกท่านมาหารือกัน
ความเสี่ยงคือความไม่แน่นอนของผลตอบแทน ?
นิยามที่เราใช้มากที่สุดคือความเสี่ยงคือความไม่แน่นอนของผลตอบแทน แน่นอนว่านิยามนี้คือนิยามที่คลาสสิกและเราใช้กันมากที่สุด หากผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้รับมีโอกาสกระจายมากกว่าผลตอบแทนที่คาดหวัง การลงทุนนั้นจะมีความเสี่ยงมากกว่า การลงทุนที่ กผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้รับมีโอกาสกระจายน้อยกว่า
Semi Variance
ความไม่สมเหตุสมผลของ Variance คือเราเอาการกระจายทั้งสองด้านคือด้านที่ดีด้วยและด้านที่ลบด้วย แต่ในความเป็นจริงเราอาจจะกังวลแค่ด้านที่ติดลบ เลยเป็นที่มาของ semi-Variance
Drawdown
บ้างคนอาจจะคิดว่าเราไม่ได้สนใจความผันผวนหรอกแต่เราอยากรู้ว่ามันขาดทุนที่มากที่สุดที่มันเป็นไปได้ต่างหาก ตัวชี้วัดที่จะบอกการขาดทุนที่มากที่สุดก็คือ Drawdown นั้นเอง
Var/Cvar
ปัญหาของ Drawdown มันหยิบตัวอย่างมาแค่ค่าเดียว ซึ่งมันอาจเป็น Outlier ก็ได้
value at risk หรือ ผลตอบแทนที่ความน่าจะเป็นที่เรากำหนด ซึ่งจะตัด Outlier ออกไป ระดับหนึ่ง
ความเสี่ยงคือความน่าจะเป็นที่เราไปไม่ถึงเป้าหมาย
“การเงินไม่ได้มีแค่เรื่องการทำเงินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายของเราและการปกป้องผลประโยชน์จากการทำงานของเรา”” as stated by the Nobel-laureate Robert Shiller (Parker, 2021, p.2).
ในความเป็นจริงแล้ว นักลงทุนจำเป็นต้องมีเงินทุนเพื่อใช้ในเป้าหมายการลงทุนในอนาคตโดยเฉพาะ การลงทุนจึงเป็นการตอบสนองจุดประสงค์เฉพาะในชีวิต โดยเป้าหมายชีวิตคือจุดประสงค์ของการลงทุน และการลงทุนคือช่องทางในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ นักลงทุนมักมีเป้าหมายบางอย่างอยู่ในใจ พูดง่ายๆ ก็คือ การลงทุนคือหัวใจหลักและอิงตามเป้าหมาย ดังนั้นความเสี่ยงควรจะเป็นโอกาสที่ไม่บรรลุเป้าหมายมากกว่า
สรุป
ตรวจชี้วัดความเสี่ยงของเราอาจต่างกัน แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน รวมถึงการคำนวณความเสี่ยง เราก็มักใช้ข้อมูลในอดีตซึ่งมันไม่ได้บอกในอนาคตเลย ดังนั้นจริงๆแล้วเราแทบไม่สามารถวัดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลย
แล้วความเสี่ยงของคุณแหละคืออะไร?
Kommentare