ออปชั่น (Option) คือสัญญาหรือข้อตกลงที่ให้ทางเลือกกับคุณว่าจะซื้อหรือขายบางสิ่งในอนาคต ณ ราคาหนึ่งที่กำหนดไว้หรือไม่ (โดยไม่บังคับ) ออปชั่นมีมานับพันปีแล้ว แล้ววันนี้เราจะมาทำเข้าใจตราสารที่มีมาอย่างยาวนาน

ประเภทของออปชั่นอย่างง่าย
คอล ออปชั่น (Call Option) คือ สัญญาที่ให้สิทธิคุณในการซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ตามราคาใช้สิทธิ ณ วันหนึ่งในอนาคตที่ระบุในสัญญา คอลออปชั่นกำหนดวันที่คุณต้องตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อหุ้น โดยผู้ขายอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง
พุท ออปชั่น (Put Option) สัญญาประเภทนี้ให้สิทธิคุณในการขาย (แทนการซื้อ) หุ้นอ้างอิงในราคาที่กำหนด เพื่อทำความเข้าใจสัญญาออปชั่น คุณต้องเข้าใจว่าออปชั่นเหล่านี้ใช้งานอย่างไรและมีใครเป็นผู้ใช้งานบ้าง
ศัพท์แสงในวงการ
ราคาใช้สิทธิ (Strike Price หรือ Exercise Price) คือราคาที่ตกลงจะซื้อขายกัน (จากตัวอย่างคือ 40,000 ดอลลาร์)
วันหมดอายุ (Expiration Date) คือวันที่คุณต้องใช้สิทธิ หากคุณต้องการ
ค่าพรีเมียม (Premium) คือจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายให้แก่ผู้ขายออปชั่นเพื่อให้ได้สิทธิในการซื้อหุ้น (กรณีนี้คือ 10,000 ดอลลาร์) และ
สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) คือหุ้นของบริษัทที่คอล ออปชั่นนี้อ้างอิงอยู่
ออปชั่นมีเพื่ออะไร
เราสามารถซื้อคอลออปชั่นถ้าเราคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นก่อนถึงวันหมดอายุ โดยที่เราไม่ต้องการซื้อสินทรัพย์นั้นจริงๆ เปรียบเสมือการซืัอประกัน ต้นทุนในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงกว่าค่าพรีเมียมของคอลออปชั่นมาก ดังนั้น คอลออปชั่นจึงมีความเสี่ยงน้อยกว่า มันยังหมายความว่ามี อัตราทด(Leverage) มากขึ้น หากสินทรัพย์อ้างอิงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าคุณใช้คอลออปชั่นจะมีผลตอบแทนในรูปเปอร์เซ็นต์สูงกว่ามาก ข้อเสียของออปชั่นคือ ถ้าราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่ขยับขึ้นเท่าใดนัก คุณจะขาดทุน
ทำไมผมบอกว่าคอลออปชั่นจึงมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ทำไมกลตบอกว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าตราสารทุนด้วยซำ้ มีคนใดคนหนึ่งผิด ? ป่าวเลย เราแค่มองต่างมุม หากเรามองคอลออปชั่นโดยให้ Position ของหุ้นไม่เกิน 100 % มันจะเสียงตำ่กว่าแต่เพราะคุณสมบัติของการมีอัตราทดนั้นเอง ถ้าเราใช้อัตราทดมันจะสูงกว่า
พุทออปชั่นมีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นลองจิตนาการว่าคุณถือหุ้นบริษัท XYZ อยู่ แต่กังวลว่าราคาหุ้นจะตก คุณอาจขายหุ้นทิ้ง แต่คุณก็กลัวว่าจะตัดสินใจผิดและราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น คุณอาจพลาดกำไรทั้งหมดได้ ความเสียใจจากการขายหมูช่างน่ากลัว คุณจึงซื้อพุท ออปชั่นที่ให้สิทธิในการขายในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากราคาหุ้นตกลงจริง คุณจะจำกัดการขาดทุนได้ ถ้าราคาหุ้นร่วงจาก 50 ดอลลาร์เหลือ 10 ดอลลาร์ แต่คุณถือพุท ออปชั่นที่ราคาใช้สิทธิ 40 ดอลลาร์ คุณก็จะขายหุ้นที่ราคา 40 ดอลลาร์ได้ แทนที่จะขาย ณ ราคาตลาดที่ 10 ดอลลาร์ แล้วจะขายหุ้นให้ใครกัน? ก็คนที่ขายพุท ออปชั่นให้คุณไง ที่เรียกว่าผู้ขายออปชั่น หรือ ไรเตอร์ (Option Writer)
เมื่อมีพุท ออปชั่น คุณไม่จำเป็นต้องมีหุ้นก่อนที่จะซื้อการป้องกันการขาดทุนนี้ ในกรณีนี้ “การป้องกัน” เป็นคำที่ผิดอย่างสิ้นเชิง การซื้อพุท ออปชั่นโดยไม่ได้ถือครองสินทรัพย์อ้างอิง คือการเดิมพันว่าราคาหุ้นนั้นจะลดลงรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้นจึงสามารถใช้ออปชั่นเพื่อเก็งกำไรราคาหุ้น หากคุณเห็นทิศทางราคา หรือใช้เพื่อการประกันความเสี่ยง ถ้าต้องการปกป้องพอร์ตโฟลิโอ
แล้วเราจะกำหนดราค่าอย่างไร
ก่อนทศวรรษ 1970 ออปชั่นแทบไม่ต่างอะไรกับการพนัน จนกระทั้งนักคณิตศาตร์ผู้หนึ่งทำกำไรจากสิ่งนี้จนได้ ฉายา "ชายสำหรับทุกตลาด" ชายผู้นีั้ทำได้อย่างไรเขามีเวทมนต์ เขามีสมการมหัศจรรย์หรอ?
กลยุทธ์การลงทุนของชายผู้นั้นผมจะไม่เขียนในนี้ เพราะผมจะเขียนในบทความแยก แต่เพื่อให้เข้าใจความสามารถทำกำไรของชายผู้นั้น เราจะมาเข้าใจการกำหนดราคาออปชั่นกัน

ถ้าเรามีหุ้นที่ราคา 100 บาท และมีโอกาส 60% ที่จะเป็น 101 และ 40% ที่จะเป็น 99 ออปชั่ยของหุ้นตัวนี้ความมีราคาเท่าไหร่
.
.
.
.
.
.
.
.
ในกรณีที่หุ้นตัวนี้ขึ้นไปที่ 101 เราจะกำไร 1 บาท
ในกรณีที่หุ้นตัวนี้ขึ้นไปที่ 99 เราจะไม่ขาดทุนเพราะเราจะไม่ใช้สิทธิ
ดังนั้น ออปชั่นตัวนี้ควรมีมูลค่า (60%)1 = 0.6
.
.
เป็นคำตอบที่ผิด เพราะคำตอบที่ถูกต้องคือ 1/2 หรือ 0.5 ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผม ถ้าผมซื้อหุ้นครึ่งหุ้น ถ้าราคาเพิ่มเป็น 101 ผมจะกำไร 0.5 แล้วถ้าราคาลดลงมาที่ 101 ผมจะขาดทุนที่ 0.5
ดังนั้นถ้าหากราคาของออปชั่นอยู่ที่ 0.6 ผมจะยอมเป็นคนขายออปชั่นให้คุณ และ เอาเงินที่ได้ไปซื้อหุ้นผมจะกำไรโดยปราศจากความเสี่ยง
และสิ่งนี้เรียกว่า การป้องกันความเสี่ยงแบบ เดลต้า
สิ่งที่คุณสังเกตได้อีกอย่างคือราคาของออปชั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับทิศทางหรือความน่าจะเป็นของราคาแต่มันคือการเครื่องไหวของราคาต่างหาก
ถ้าคุณอยากเข้าใจความมหัศจรรย์ของสิ่งนี้ผมจะกลับมาเขียนเร็วๆ นี้ กดติดตามไว้เลยและอยากให้ช่วย กดแชร์ด้วย ผมจะได้กลับมาเขียนต่อไวไว
เราจะไปต่อการแกะะสมการแสนล้าน อย่างแบล็กโชว์
Comments